Movies Talk

กันยายน 19, 2008

ตำนานโหดโคตรไอ้เคี่ยม Rogue in Movies talk Blog

สวัสดีครับ เรื่องถัดมา ของ Movies Talk แล้วครับวันนี้ฝนตกจังเลยเเฮะ วันนี้นำเสนอเรื่อง Rogue ตำนานโหดโคตรไอ้เคี่ยม

เริ่มเรื่องที่เทือกเขาเทอริเทอรี่ ออสเตรเลีย ชายอเมริกันคนหนึ่งเดินสูบบุหรี่เข้ามาที่หมู่บ้าน เขาเดินไปยังร้านขายของแปลกเช่นแมงมุมดอง ค้างคาว ข่าวจระเข้กินคน เพื่อซื้อกาแฟแล้วคุยกับเจ้าของร้านว่าเขากลับบ้านไม่ได้เพราะพาสปอร์ตหายเขาเปลี่ยนใจล่องเรือแทน การล่องเรือดูจระเข้ครั้งนี้มีผู้โดยสารหลายคนครอบครัวสมิท 3 คน ช่างภาพ ไกด์สาวชื่อเคที่กับหมาที่ชื่อเคลวิน ลุงแก่ เอฟเวอเรสกับแฟน ไกด์สาวอธิบายว่าออสเตรเลียเป็แเหล่งรวมจระเข้น้ำเค็มที่ใหญ่และมากที่สุดในโลกมันสามารถกระโดดได้โดยใช้หางเป็นตัวส่งแรง ว่ายใต้น้ำความเร็ว 20 ไมล์ต่อชั่วโมง หาเหยื่อโดยการเฝ้ามองเรียนรู้พฤติกรรมของเหยื่อ ชายอเมริกันเดินไปข้างหลังเล้วคุยกับเคที่ท้ายเรือ บ้านผมอยู่ชิคาโกผมเป็นคอลัมนิสต์ มีเรืออีกลำแล่นมาเทียบที่เราของเคที่ เขา 2 คนเป็นเพื่อนเคที่นั่นเองชื่อว่าคอลินและนิว เขาพูดจากวนนักท่องเที่ยวจนเคที่ทนไม่ไหวเลยชนนิวกระเด็นตกน้ำไปเคที่กำลังจะกลับแต่นักท่องเที่ยวเห็นพุขอความช่วยเหลือ เคที่ตัดสินใจไปต้นน้ำเละขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวทุกคนด้านข้างเป็นภูเขาสูงชันช่างภาพซูมกล้องเห็นรูปจระเข้ยักษ์ที่ถูกวาดไว้บนแท่นหินเพื่อเตือนนักท่องเที่ยวหรือเปล่า?? การแล่นเรือมาถึงต้นน้ำจระเข้ยักษ์ได้พุ่งชนเรือจนรั่วเคที่คุมเรือไปจอดที่เกาะกลางน้ำ วิทยุใช้ไม่ได้เนื่องจากจมน้ำเราอยู่ลึกมากจนสัญญาณไม่มี เคที่พูดบอกนักท่องเที่ยวตาแก่บอกว่าเห็นดินนี่มั๊ยน้ำจะขึ้นและท่วมเกาะกลางน้ำเราต้องไปก่อนที่จะค่ำตาแก่เดินลงไปในน้ำจอห์นเข้าไปห้ามแล้วผลักตาแก่ออกมาสุดท้ายพอทุกคนหันไปก็เห็นแต่หางจระเข้กับตาแก่ที่อยู่ในน้ำเคที่และหนุ่มอเมริกันไปหาพุแต่ว่าพุนั้นลอยไปกลางแม่น้ำเสียแล้วช่างกล้องทดสอบสัญญาณคลื่นวิทยุมีเสียงเพลงดังข้นมาซักครู่เรื่อของคอลินและนิวก็มาถึงบริเวณนั้น เคทีและนักท่องเที่ยวดีใจมากและขอความช่วยเหลือแต่2 คนก็ยังขับเรือวนไปมานิวบอกให้เพื่อนจอด จระเข้ยักษ์พุ่งชนเรืออีกเรือกระเด็น คอลินถูกคาบไปส่วนนิวว่ายมาที่เกาะกลางน้ำได้ (more…)

สิงหาคม 17, 2008

บี มูฟวี่(Bee Movie)

ว้าว เรื่อง Bee Movie นี้สนุกพอๆ กับฮอร์ตันเลยครับเป็นผลงานของบริษัทดรีมเวิร์ค เห็นหน้าปกทีเเรกนึกว่าจะไม่มันส์ซะเเล้ว เข้าเรื่องเลยดีกว่า

เริ่มเรื่องมาว่าด้วยทฤษฎีที่มนุษย์คิดว่า ผึ้งไม่สามารถบินได้เพราะผึ้งปีกก็สั้น ตัวอ้วน ไม่สมดุลย์ เเต่ผึ้งก็ยังบินได้ ผึ้งไม่เคยสนทฤษฎีนี้เลย

เเบรี่ วิลสัน ผึ้งตัวเอกของเรื่องตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่เเล้วพบกับ อดัมเพื่อนสนิทเพื่อไปรับปริญญาผึ้งรุ่น 9 โมง 15 นาที เเห่งม. บาร์กเวลล์ ที่มหาลัยนี้จบเเล้วผึ้งจะทำงานทันทีโดยเลือกอาชีพครั้งเดียว ทำตลอดชีพที่ HONEX เเก๊งส์ล่าน้ำหวานกลับมาใน ช่วงเวลาที่รถพาสำรวจไปรอบๆ โรงงานเเละเเนะนำโรงงานว่ามีเเก๊งส์ล่าน้ำหวาน ทำหน้าที่น้ำหวานกลับมา เพื่อปรับกลิ่นจนได้น้ำผึ้ง ห้องทดสอบหมวกกันกระเเทก เครื่องเคลเมอร์ที่ปาดสายน้ำผึ้ง(พนักงานทุกคนต้องสวมหมวกรูปนิ้วชี้เพื่อใช้ในการปาดน้ำผึ้ง)

เเก๊งส์ล่าน้ำหวานกลับมา เเบรี่สนใจเเต่อดัมว่าเป็นไปไม่ได้เพราะเเก็งส์ล่าน้ำหวานถูกฝึกมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เเก๊งส์ล่าน้ำหวาน เข้ามาทักทายเเล้วบอกว่าพรุ่งนี้จะออกล่าน้ำหวานที่ทุ่งทานตะวันห่างจากที่นี่ 6 ไมล์

บางทีอุตสาหกรรมน้ำหวานนี่อาจไม่เหมาะกับผม เเบรี่พูดกับพ่อเเม่เมื่อกลับมาที่บ้าน อดัมไปที่เครื่องสกร์บอร์ดเพื่อเลือกงานที่จะทำ ส่วนเเบรี่ออกไปทำงานกับเเก๊งส์ล่าน้ำหวานโดยมีกฎว่า “ห้ามคุยกับมนุษย์” เเละ “อย่าบินตอนฝนตก” เเก๊งส์ล่าน้ำหวานลงที่ ทุ่งดอกกุหลาบเพื่อดูดน้ำหวานเเละผสมเกสร ต่อจากนั้นบินลง ณ. ที่เเห่งหนึ่งที่มีดอกไม้สีเขียวที่เคลื่อนที่ได้อยู่ เลยลงไปสำรวจ เเบรี่มือติดกับลูกเทนนิสลอยไปมาเเล้วร้องตะโกนลั่นว่า “ช่วยด้วย”เเบรี่หลุดจากลูกเทนนิสเเล้วถูกดูดเข้าไปในรถ คนที่อยู่ในรถ เห็นผึ้งก็ตกใจรีบไล่กันพัลวัน เเบรี่หลุดออกมาจากรถได้เเล้วฝนก็ตกลงมา เเบรี่บินหลบฝนเข้าไปในบ้านสองคนที่เล่นเทนนิส ร้านนี้ขายดอกไม้ครับ เเบรี่พุ่งชนหลอดไฟหลายครั้งบ่นไปพลางว่าทำไมดวงอาทิตย์มีเลข 75 เเต่เราไม่เคยสังเกต เเบรี่ตกลง มาเเล้วเกือบถูกผู้ชายที่เล่นเทนนิสชื่อ เคนตีตายด้วยทิมเบอร์เเลนด์

พอดีเเฟนที่ชื่อเวนเนสซ่าผ่านมาเลยถามว่า “ทำไมชีวิตเค้ามีค่าน้อยกว่าชีวิตคุณ” เเล้วเคนก็กลับไป เเบรี่ตัดสินใจพูดกับเวนเนสซ่า “หวัดดี” เวนเนสซ่าเเปลกใจเอาส้อมมาทิ่มตัวเองเพื่อทดสอบว่าไม่ได้ฝัน เเล้วทั้งเเบรี่กับเวนเนสซ่าก็ได้คุยกันเกี่ยวกับอาชีพที่พ่อ
เเม่ต้องการให้ทำเเต่ไม่สมัครใจจะทำ ช่างไฟซ่อมหลอดไฟเห็นเวนเนสซ่าคุยอยู่ก็ถามว่า “สบายดีหรือเปล่า”
(more…)

สร้างเว็บไซต์หรือบล็อกฟรีที่ WordPress.com.